Featured

ฮานอย ประเทศเวียดนาม

ทัวร์เวียดนาม
ท่องเที่ยวฮานอยคราวนี้ไปจัดทริปท่องเที่ยวฮานอย อาทดลอง นิงห์บิงห์ 4 วัน ช่องทางมาแบบงี้ลางานไปเลยจ้ะ ใช้เวลาเดินทางเพียงแต่ 2 ชั่วโมง ก็ถึงสนามบินนอยไบ กรุงฮานอย เป็นจังหวัดที่มีความพิเศษทางธรรมชาติมากมาย ฮานอยมีพื้นที่เป็นที่เปียกแฉะน้ำในเขตแดนอันกว้างขวาง ตรงนี้หลายท่านเรียกว่า อ่าวฮาทดลองบนแผนดินหรือฮาทดลองบก นั่นเองจ้ะ!! ตรงนี้ทางทัวร์จะให้พวกเราได้อิสระสำหรับการช้อปปิ้งตามร้านขายของต่างๆแล้วก็ที่ปลาบปลื้มกว่านั้น แถวที่พัก มีลานเบียร์สดให้จิบกันเบาๆกับบรรยากาศเย็นสบายช่วงเวลากลางคืน มาถึงแล้วจำเป็นต้องทดลองเบียร์สดกันนะคะ^
กลางทางไปถ้ำตำก๊อกน้ำจะผ่านที่นาข้าวอยู่สองข้างทาง ถ้ำตำก๊อกน้ำจะมีหินงอกหินย้อยอันน่าประหลาดหัวใจ หลบซ่อนอยู่ภายใต้ความลึกของแนวเขา เทือกเขาและก็สมุทรเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน ทำให้ตรงนี้มีพื้นที่ที่เหมือนกับภาพวาดแหนะ
และก็ตามด้วยการนั่งรถยนต์กอล์ฟเพื่อสักการพุทธปฏิมากรที่วัด BAI DINH ซึ่งเป็นวัดดั้งเดิมประจำเมืองของเมืองหลวงเก่าที่มีประวัติแล้วก็ความโด่งดังของเวียดนาม มีพุทธรูปตั้งเรียงรายทั้งผอง 2,000 องค์ ยิ่งกว่านั้นมีหอระฆัง ตึกเจ้าแม่กวนอิม แล้วก็วิหารเจ้าแม่กวนอิมพันมือ วัดนี้ถูกผลิตมาถูกหลักฮวงจุ้ยแท้ๆเป็นข้างหน้าเป็นน้ำข้างหลังเป็นเขา มีแนวเขามากไม่น้อยเลยทีเดียว นา ท้องน้ำ แล้วก็มีแม้กระนั้นพืชเขียวชอุ่มผ่องใส ยิ่งดูยิ่งงามประหลาดตาหาไม่ได้จากที่ไหน
จากนั้นถึงเวลาพักตอนกลางวัน เอาแรงเพื่อเดินทางสู่ดินแดนที่มังกรนอนหลับ เมืองฮาทดลอง จังหวัด Quang Ninh ตรงนี้มีเขตแดน ใกล้กับจีน ใช้เวลาสำหรับการเดินทางตรงนี้นาน 4 ชั่วโมง ระหว่างนั้นเขามีให้แวะพักร้านค้ายาสมุนไพร หรือคนไหนกันแน่จะนวดเพื่อบรรเทาตามความสะดวก
แวะทานมื้อเย็นเสร็จฝ่าช้อบอิสระต่อที่ตลาดค่ำคืนของเมืองฮาทดลอง มีของกำนัล ของฝาก ดังเช่น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า ไม้หอมสลัก ฯลฯ แม่ค้าตรงนี้จำนวนมากบอกภาษาไทยได้ รวมทั้งสามารถต่อรองราคาผลิตภัณฑ์ได้ด้วยนะ
จากนี้ได้ดูความงามของถ้ำด่งเทียนปะทุง มีหินงอกหินย้อยล้วนแล้วแต่งดงาม เนื่องจากว่าถ้ำนี้เพิ่งจะถูกศึกษาและทำการค้นพบก็เลยถูกใจมากมายเป็นพิเศษที่ได้มาดูความงดงามการประดับสีตามฝาผนังและก็มุมต่างๆที่ทำขึ้นโดยธรรมชาติรวมทั้งถูกเติมแต่งโดยความสามารถมนุษย์ แสงสีที่พอดีนำมาซึ่งการก่อให้เกิดจินตนาการรูปร่างต่างๆอีกทั้ง มังกร เทวนารี รูปคู่สมรสชายหนุ่มสา ฯลฯ ดูความสวยงามของธรรมชาติถึงเวลาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกต่างๆแล้วเดินทางกลับสู่ท่าเรือฮาทดลอง
พักรับประทานอาหารเย็นแล้วไกด์จะพาพวกเราไปดูการแสดงหุ่นกระบอกน้ำ เป็นศิลปกรรมประจำชาติซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเวียดนาม ที่ให้ดูได้เพียงแค่ตรงนี้แห่งเดียวของโลก
วันสุดท้ายในกรุงฮานอย เยี่ยม สี่เหลี่ยมจัตุรัสบาดิงห์ ป่าช้าผู้นำโฮจิมินห์ ป่าช้าใส่ร่างท่านผู้นำ ปิดเฉพาะวันจันทร์กับวันศุกร์ของอาทิตย์ และก็ก.ย.ถึงพ.ย. โชคดีที่มาส.ค.เลยไม่พลาดที่กำลังจะได้ดู แต่ว่าสำหรับมาในตอนปิดบริการ สามารถดูความงดงามในบรรยากาศรอบนอกได้จ้ะ
ทิ้งท้ายด้วยมื้อเที่ยงตรงแบบจัดหนัก ทัวร์พามาจัดบุฟเฟต์นานาประเทศที่ร้านอาหาร ของกินละลานตามากมาย อร่อยจนกระทั่งท้องตึงรับประทานแบบไม่อายความเป็นกุลสตรีไทย
หมดแล้วกับทริปที่แสนพิเศษที่ได้ท่องไปยังเมือสีสันต์ธรรมชาติที่บริสุทธิ์ดุจภาพวาด ถ้าหากได้โอกาสได้โดดงานมาอีก ครั้งต่อไปอาจจะหนีไม่พ้นกรุงฮานอยที่มีความเงียบสงบรวมทั้งบรรยากาศอันน่าหลงไหล
Featured

ไหว้พระประเทศพม่า รวม 5 สถานที่ทำบุญทำกุศล เสริมดวงบารมี

ทัวร์พม่า
วันนี้ทางพวกเราก็เลยได้เก็บรายนาม 5 วัดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไหว้พระเมียนมาร์นิยมไปกัน ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง !1.
พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda)
เมื่อเอ่ยถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศพม่าแล้ว คนจำนวนมากชอบระลึกถึง พระมหาเจดีย์ชเวดากอง มาก่อนเป็นอันดับหนึ่งสถานที่สุดได้รับความนิยมชั้น 1 ของทัวร์ไหว้พระประเทศพม่า เพราะมีรายการวิทยุแล้วก็รายการทีวีหลายรายการป้องกันอย่างยิ่งจริงๆที่จัดทัวร์ไหว้พระเมียนมาร์ตรงนี้ ก็เลยไม่ฉงนใจว่าเพราะเหตุไรพวกเราถึงคุ้นชื่อเจดีย์ชเวดากองจากเมืองปิ้งกุ้งอย่างดีเยี่ยม
ส่วนที่ไปที่มาของความศักดิ์สิทธิ์ของเจดีย์ชเวดากองกระทั่งใครๆก็ต้องการมาทัวร์ประเทศพม่าไหว้พระนั้น เริ่มมาจากการที่ บุเรงท่วม มาขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ลานอธิฐานก่อนออกศึก รวมทั้งแน่ๆว่าท้ายที่สุดเขาก็ชอบชนะซะทุกคราว ยิ่งกว่านั้นยังมีความเชื่อของชาวมอญแล้วก็ชาวเมียนมาร์อีกด้วยว่าการมากมายราบไหว้เจดีย์ชเวดากองนั้นจะเป็นแนวทางสิ้นทุกข์ ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ และก็อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของเจดีย์ชเวดากองก็คือบริเวณรอบๆเจดีย์นั้นจะมีทุกวันกำเนิดติดตั้งอยู่ 8 ด้าน ที่สามารถเลือกขอพรตามวันเกิดเพื่อเป็นบารมีกับชีวิตได้อีกด้วย
2.เทวดาทันใจ (Bo Bo Gyi) อีกหนึ่งไฮไลท์ของทัวร์ประเทศพม่า
เว้นแต่พระมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว อีกหนึ่งโปรแกรมทัวร์เมียนมาร์ไหว้พระ ที่คนนิยมไปกันก็คือ ทัวร์ไหว้พระเทวดาทันใจ ที่เจดีย์โบดาทาวน์ โดยเทวดาทันใจนั้นจะมีชื่อเรียกในภาษาประเทศพม่าว่า นัตโบโบยี ซึ่งมาจากคำว่า “นัต” หมายความว่าจิตวิญญาณที่สูงกว่าผีแต่ว่าน้อยกว่าเทวดาตามคติความเลื่อมใสประเทศพม่า มีบทบาทคุ้มครองสถานที่สำคัญต่างๆกับคำว่า “ โบโบยี ” ที่คนเมียนมาร์ใช้เรียกสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือบุคคลที่ตนยกย่อง
ส่วนสาเหตุของชื่อ เทวดาทันใจ มาจากความศักดิ์สิทธิ์ที่บอกต่อกันปากต่อปากว่าเมื่อมาขอพรตรงนี้แล้วพอกลับไปไม่กี่วันพรนั้นก็จะสมความต้องการ ก็เลยเป็นสาเหตุของชื่อ เทวดาทันใจ และก็ยอดเยี่ยมในต้นเหตุที่คนอีกหลายๆคนท่องเที่ยวไหว้พระประเทศพม่า
3.ทัวร์ไหว้พระเมียนมาร์กับ เทวดากระซุบกระซิบ (Amadaw Mya Nan Nwe)
เมื่อพวกเราไปไหวเทวดาทันใจแล้ว โดยมากท่องเที่ยวเมียนมาร์จะพาไปไหว้พระ สักการ เทวดากระซิบบอก กันต่อเลย เหตุเพราะสถานที่ติดตั้งของเทวดากระซิบกระซาบนั้นจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเจดีย์โบดาทาวน์ โดยเทวดากระซุบกระซิบมีชื่อเรียกในภาษาประเทศพม่าว่า “อะมาดอว์เมียะ” เป็นลูกสาวของพญานาคที่เลื่อมใสพุทธอย่างยิ่ง เมื่อตายไปก็เลยเปลี่ยนเป็น นัต
ส่วนสาเหตุของชื่อเทวดากระซิบกระซาบ และก็ความอำนาจที่ยั่วยวนใจไหว้พระเมียนมาร์นั้น บอกเลยว่ามีต้นเหตุจากชาวไทยนี่แหละ แรกเริ่มชาวเมียนมาร์ก็ไหว้ อะมาดอว์เมียะ ปกติ แต่ว่าไม่มีผู้ใดไปกระซิบบอกอะไร จนกระทั่งวันหนึ่งไกด์จากทัวร์ไหวพระประเทศพม่าได้พาคนประเทศไทยไปรวมทั้งมองเห็นป้ายภาษาเมียนมาร์ที่เขียนว่า “ห้ามพูดเสียงดัง” เนื่องมาจากมีพ่อค้าแม่ขายรอบๆนั้นถูกใจโหวกเหวกโวยวาย แต่ว่าไกด์หลงผิดก็เลยบอกกับลูกทัวร์ไปว่า “ถ้าหากจะขอพรกับเทวดาองค์นี้ห้ามพูดเสียงดัง” ต่อจากนั้นลูกทัวร์ชาวไทยก็ไปกระซิบกระซาบขอพร ซึ่งแน่ๆชาวเมียนมาร์มองเห็นคนประเทศไทยทำแล้วก็สมหวังตามประสงค์ก็เลยเริ่มทำบ้าง จนถึงเปลี่ยนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติท้ายที่สุด
4.สักการพระเขี้ยวแก้ว ศรีลังกา (Dalada Maligawa)
ที่ปิ้งกุ้งยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกชิ้นหนึ่งที่คู่ควรกับการไปไหว้พระเมียนมาร์โน่นเป็น พระเขี้ยวแก้ว ที่วัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี โดยพระเขี้ยวแก้วชิ้นนี้ได้เอามาจากประเทศศรีลังกาตั้งแต่ยุคพระผู้เป็นเจ้าบุเรงท่วม นับว่าเป็นสิ่งอำนาจที่อยู่คู่กับประเทศพม่ามานาน ในส่วนของตัววัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณีนั้นก็นับว่าไม่ธรรมดา ด้วยเหตุว่าเป็นการก่อสร้างแบบตามสถาปัตยกรรมแบบพม่า สวยสดงดงาม งอนงาม โดยมีจุดแข็งตรงที่ตัววัดจะเป็นทรงแปดเหลี่ยมที่สวย ก็เลยเหมาะสมมากที่จะมาไหว้พระประเทศพม่าที่วัดนี้
5.สักการพระนอนตาหวาน (Kyauk Htat Gyi Buddha)
ถ้าเมืองไทยมีพระนอนที่วัดโพธิ์เป็นแหล่งล่อใจนักเดินทางแล้ว ไหว้พระประเทศพม่าก็มี พระนอนตาหวานหรือพระพุทธนอนหลับเจาทัตยี (Chauk Htat Gyi pagoda) ที่วัดพระพุทธนอนหลับเจาทัตยี เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญด้วยเหมือนกัน โดยพระนอนตาหวานนี้เป็นพุทธรูปปริมาณยาวราวๆ 70 เมตร ใหญ่ที่สุดในประเทศเมียนมาร์ มีจุดแข็งตรงที่ดวงตาที่มองหวานและก็ผ้าจีวรที่เป็นพลิ้วไหวๆส่วนตรงแกนกลางฝ่าพระบาทนั้นจะมีรูปมงคล 108 ประการ นอกนั้นพระบาทยังมีลักษณะทับกันทำให้แตกต่างกันกับศิลป์แบบไทยอีกด้วย
Featured

7 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในเกาหลีที่ต้องตามไปดู!

ทัวร์เกาหลี
เริ่มไปสู่ตอนฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ประเทศเกาหลีกันแล้ว! คนใดกันแน่ไม่รู้จักจะท่องเที่ยวไหนดี พวกเราชี้แนะให้มาท่องเที่ยวประเทศเกาหลีเดี๋ยวนี้เลย! เนื่องจากว่าอากาศกำลังสบายๆอุณหภูมิที่ประเทศเกาหลี กำลังพอดี กล่าวได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดมุ่งหมายของนักเดินทางที่จะมาดูบรรยากาศในตอนใบไม้เปลี่ยนสี เนื่องจากว่ามีธรรมชาติที่สวยอยู่เยอะๆเทือกเขา สวนซอรัคซาน เกาะนามิ รวมทั้งที่อื่นๆรวมทั้งเทศกาลที่จะจัดขึ้นในตอนใบไม้เปลี่ยนสีที่ประเทศเกาหลี เลยรวม 7 พิกัดตามหาใบไม้เปลี่ยนสีที่ประเทศเกาหลีมาฝากกัน จะมีที่แห่งใดบ้าง ตามมามอง!
1. อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน (Seoraksan National Park)
เริ่มไปสู่ตอนฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ประเทศเกาหลีกันแล้ว…ซอรัคซาน ก็เป็นเลิศในสวนสุดได้รับความนิยมของประเทศ ประเทศเกาหลี ที่จะต้องมาในตอนใบไม้เปลี่ยนสีจริงๆเพราะเหตุว่าบรรยากาศของป่าสนที่เบาๆเปลี่ยนสีไล่กันไปเทือกเขานั้นเป็นภาพที่งดงามมากมาย จุดที่ยอดเยี่ยมสำหรับในการดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ซอรัคซานหมายถึงช่องเขากางคดัม ซอกเขาโอแซค จุลจองกอล บ่อน้ำแร่โอแซก แล้วก็ซอกเขาชอนบุนป่าดง
2. เทือกเขานัมซาน (Namsan Mountain)
เทือกเขานัมซาน ดูบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสี บนเทือกเขากลางเมืองโซล ถ้าเกิดมาท่องเที่ยวประเทศเกาหลี แล้วดูลงมาจากเทือกเขานัมซาน จะได้เจอกับภาพทัศนียภาพของกรุงโซล ตอนฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ตามข้างทางจะเต็มไปด้วยสีแดงของใบเมเปิ้ลแล้วก็สีเหลืองของต้นกิงโกะหรือแปะก๊วยนั่นเอง กลางทางเดินไปยอดดอยก็มีที่ให้แวะเดินเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น สวนพฤกษศาสตร์นัมซาน หอสมุดสาธารณะนัมซาน สถาบันเกอเธ่ ประเทศเกาหลี
3.เกาะนามิ (Nami Island)
คนใดถูกใจมองซีปรี่ย์ประเทศเกาหลีนี่จำต้องมาท่องเที่ยวเกาะนามิสักหนึ่งครั้ง! สะกดรอยซีปรี่ย์สุดได้รับความนิยมเรื่อง เพลงรักในสายลมหนาว (Winter Sonata) ขอบอกว่าเกาะนามิเป็นท่องเที่ยวได้ทุกฤดูเลยจริงๆมาท่องเที่ยวฤดูร้อนก็จะมองเห็นใบไม้สีเขียว ตอนใบไม้ผลิก็มีซากุระให้มอง ถ้าหากมาฤดูหนาวก็ฟินกับบรรยากาศหิมะตก ส่วนตอนใบไม้เปลี่ยนสีก็จะได้มองเห็นอุโมงค์ต้นแปะก๊วยสีเหลืองรวมทั้งใบเมเปิ้ลกลายเป็นสีแดงทั่วอีกทั้งเกาะนามิ
4. อุทยานแห่งชาติจิริซาน (Jirisan National Park)
อีกหนึ่งสวนของประเทศเกาหลีที่มีทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีที่งาม ในช่วงปลายตุลาคม ต้นไม้บนเทือกเขาจะเปลี่ยนสีเป็นสีส้ม สีแดง สีเหลือ ไล่กันไปทั่วทั้งยังเทือกเขา แล้วก็ตรงนี้ยังเป็นจุดมุ่งหมายของนักไต่เขาอีกด้วย
5. อุทยานแห่งชาติแนจังซาน (Naejangsan National Park)
สวนแนจังซาน คนไหนกันมาท่องเที่ยวประเทศเกาหลี ตรงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งที่ที่นักเดินทางพากันมาดูใบไม้เปลี่ยนสีในตอนตุลาคมแล้วก็พ.ย. สวนจะเต็มไปด้วยสีแดงของใบเมเปิ้ลแล้วก็ต้องแวะมาที่วัดแนจังซาน กลางทางจะได้มองเห็นอุโมงค์ต้นไม้รวมทั้งทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีที่เบาๆกลายเป็นสีแดง ส้มแล้วก็เหลือง
6. ถนนหนทางสายโรแมนติกถ็อกซูกุง (Deoksugung Palace’s stone wall road)
ถนนหนทางสายโรแมนติกเลาะวังถ็อกซู อยู่ในกรุงโซล ประเทศเกาหลี ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ใบแปะก๊วยจะกลายเป็นสีเหลืองยาวไปตามแนวถนนหนทาง หากมาท่องเที่ยวตอนต.ค. ก็มีเทศกาลดอกไม้เพลิงนานาประเทศที่กรุงโซล อีกด้วย!
7. ราชสำนักเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace)
ราชสำนักที่มีชื่อที่สุดในประเทศเกาหลี ทิวทัศน์ธรรมชาติรวมทั้งบรรยากาศร่มรื่นรอบๆราชสำนัก ในบรรยากาศตอนใบไม้เปลี่ยนสีที่ใบไม้สีแดงปกคลุมไปบริเวณราชสำนักนั้นเป็นภาพที่งามมากมาย และก็ตรงนี้ยังมีการแสดงดนตรีพื้นบ้านในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีดูเหมือนจะทุกคืนด้วย
ตอนฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ประเทศเกาหลี นี่งามทุกๆที่เลยเนอะ! ผู้ใดกันแน่ที่กำลังจะออกเดินทางไปท่องเที่ยว ประเทศเกาหลี ระยะนี้ก็เตรียมความพร้อมกันเลยย^^

5 ยอดเยี่ยมสถานที่ท่องเที่ยวในเวียดนามที่คุณจะต้องไป อัพเดท 2018

เมื่อเอ๋ยถึงเวียดนามใครๆก็มักจะระลึกถึง โฮจิมินห์ เมืองหลวงทางตอนใต้ แต่ทราบไหมมีสถานที่เที่ยวใหม่ๆน่าดึงดูดอีกเยอะมากในเวียดนามที่เวลานี้กำลังเป็นกระแสอย่างมากๆที่คุณไปเวียดนามจะต้องไม่พลาด เรามาอัพเดทกันวันท่องเที่ยวเวียดนามทั้งทีต้องสุดๆ5 สถานที่ที่ไหนกันบ้าง เริ่มกันเลย

1. ท่องเที่ยวบาน่าฮิลล์ ดานัง (Bana Hill, Danang)
บานาฮิลล์ เป็น โฮเต็ล บนยอดดอย อยู่ห่างจากตัวเมืองดานังโดยประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 40-50 นาที ส่วนประวัติความเป็นมา ภูเขาบานา เคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยด้านบนเป็นบ้านพักรวมทั้งโฮเต็ลของชาวฝรั่งเศสสมัยเป็นเจ้าอาณานิคมตั้งแต่ปี 1919 หลังสงครามชาวประเทศฝรั่งเศสพ่ายแพ้กลับประเทศไป บานาฮิลล์ถูกทิ้งร้างอยู่นับเป็นเวลาหลายปี จนตราบเท่าถูกกลับมาซ่อมแซมเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกทีในปี 2009 ซึ่งมีการสร้างกระเช้าลอยฟ้า 5,801 เมตร ที่ใช้เวลาถึง 50 นาทีสำหรับเพื่อการนั่งกระเช้าจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน ค่าใช้สอยสำหรับในการก่อสร้างเคเบิลคาร์ขั้นแรกมีมูลค่า 17.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รวมทั้งตอนที่สร้างต่อเพิ่มไปถึงยอดเขา มีมูลค่า 5.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ทั้งนี้ บานาฮิลล์ ถูกผลิตขึ้นตามมาตรฐานยุโรปโดยบริษัทที่มีชื่อจากออสเตรเลีย เครื่องไม้เครื่องมือแล้วก็เครื่องจักรนำเข้าจากยุโรป ตลอดทางประกอบไปด้วยเสา 24 ต้น มีทั้งหมดทั้งปวง 94 เคบิน ตะกร้ามีแบบเปิดเตียนโล่งโอเพ่นเครื่องปรับอากาศกับแบบห้องกระจก แต่ละเคบินบรรทุกผู้โดยสารได้ 10 คน ด้านในหนึ่งชั่วโมงสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 1,500 คน

2.เที่ยวถ้ำฟองญา (Phong Nha Caves)
เวียดนาม เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่มีนานาประการ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่เที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และยังรวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความงามและน่ามาเยี่ยมมากมายแห่งหนึ่งของโลก และวันนี้เราจะขอชี้แนะสถานที่เที่ยวที่มีอีกทั้งความสวยสดงดงาม แล้วก็ความตรึงใจ

โดยสถานที่เที่ยวที่มีชื่อของอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่างหมายถึงถ้ำฟองญา (Phong Nha Cave) ฯลฯกำเนิดของแม่น้ำชอน (Son River) ที่สะสมน้ำจากใต้ดินไหลรวมกันมาจากด้านในถ้ำ แล้วก็ได้รับการยอมรับจาก นักสำรวจถ้ำทั่วโลกว่า เป็นถ้ำอันดับที่หนึ่งของโลก เนื่องมาจากเป็นเจ้าของสถิติถึง 4 รายการยกตัวอย่างเช่น น้ำลอดยาวที่สุดในโลก, โถงถ้ำสูงที่สุด ยาวที่สุด แล้วก็กว้างที่สุด

“อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง” (Phong Nha-Ke Bang National Park) คืออีกหนึ่งเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวที่น่ามาเยี่ยมมากมายแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความโดดเด่นทางธรรมชาติและก็ทางธรรีวิทยา ที่มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่สมัยน้ำแข็ง (หรือประมาณ 400 ล้านปี) นั่นจึงนำมาซึ่งการทำให้สวนแห่งนี้มีภูมิประเทศแบบหินปูนที่เก่าแก่ที่สุดในเอเซีย อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง ตั้งอยู่ในอำเภอโบ๊จะ (Bo Trach) รวมทั้งอำเภอมิญหวา (Minh Hoa) ในเขตจังหวัดกว๋างบิ่ญ (Quang Binh) แล้วก็ติดชายแดนประเทศลาว ห่างจากกรุงฮานอยมาทางด้านใตนประมาณ 500 กม. ด้านในเขตสวนมีกรุ๊ปหินปูนมีขนาดพื้นที่ 857.54 ตารางกิโลเมตร อุทยานนี้โด่งดังในความงดงามของถ้ำที่มีอยู่เยอะมากๆ และยังเป็นสถานที่ 1 ใน 2 ของโลกที่เป็นหินปูนที่มีลำธารใต้ดินขนาดใหญ่

3.ท่องเที่ยวอ่าวฮาลอง (Ha Long Bay)
ฮาทดลองเบย์ หรือ อ่าวฮาลอง คือสถานที่เที่ยวสำคัญอีกที่ในประเทศเวียดนามที่ชื่อเสียงดังไปทั่วโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาดดู โดยตรงนี้ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์กรองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติเพราะเหตุว่ามีความสวยของธรรมชาติมาก

ฮาทดลองเบย์ เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย เมืองฮาลองตั้งอยู่ทางภาคเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อยู่ในพื้นที่จังหวัดกว่างนิงห์ ไม่ไกลจากกรุงฮานอยเมืองหลวง โดยห่างออกไปทางตะวันออกราว 170 กิโล แล้วก็อยู่ใกล้กับสาธารณรัฐประชาชนจีน ฮาลองเบย์ มีพื้นที่ทั้งหมดทั้งปวง 1,500 ตารางกิโลเมตร มีริมฝั่งยาว 120 กิโล มีเกาะหินปูนปริมาณ 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวทะเล บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น หลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความงดงามซุกซ่อนอยู่

สำหรับประวัติความเป็นมา ฮาทดลองเบย์ มีชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามว่า Vinh Ha Long หมายถึง อ่าวมังกรผู้ดำดิ่ง ตามตำนานชาวบ้านเวียดนามเล่ากันว่า ในสมัยก่อนที่ชาวเวียดนามกำลังรบกับจีน เทพเทวดาได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยเหลือ ซึ่งต่อมามังกรกลุ่มนี้ได้ดำดิ่งลงสู่ท้องทะเลรอบๆอ่าวฮาทดลอง ทำให้มีเพชรนิลจินดาและก็หชูพุ่งกระเด็นออกมาแปลงเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายตัวเป็นเกราะป้องกันผู้รุกราน แล้วก็บางตำนานกล่าวถึงสัตว์โบราณที่ชื่อว่า Tarasque ซึ่งมั่นใจว่าอาศัยอยู่ที่รอบๆก้นอ่าว

4.เที่ยวเมืองซาขว้าง ที่นาข้าวบนเขา (Sa Pa)
ซาปา เป็นเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวมากมายเป็นจำนวนมากที่มีเสน่ห์สูงที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศเวียดนาม ด้วยทำเลที่ตั้งอันสวยสดงดงามที่กลุ้มรุมไปด้วยภูเขาจนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลังคาโลกอินโดจีน ส่วนอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดปีทำให้เช้าของตรงนี้มีไอหมอกปกคลุมสวยสดงดงาม ในแต่ละปี ซาขว้าง ก็เลยล่อใจนักท่องเที่ยวจากทั่วทั้งโลกให้แวะเวียนมาเที่ยวได้จำนวนมาก

ในส่วนของประวัติความเป็นมา ซาขว้าง เป็นเมืองเล็กๆที่นักเดินทางฝรั่งเริ่มเดินทางมาพักตั้งแต่ยุคที่ฝรั่งเศสยังดูแลประเทศเวียดนาม โดยคนยุโรปติดอกติดใจตรงนี้ด้วยเหตุว่าอากาศดีรวมทั้งเงียบสงบ ถัดมาซาปาก็เลยเป็นที่รู้จักรวมทั้งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นจนกระทั่งมีนักท่องเที่ยวมาเยือนหลายหมื่นคนต่อปี

5.เที่ยวหมุยแหน เทือกเขาทรายสองสี (The Sand Dunes of Mui Ne)
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังที่แห่งนี้รับรองได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทรายเนื่องจากเทือกเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่หลายท่านคุ้นเคยกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่และอยู่ใกล้กับชายฝั่งทะเล จึงมีแดดแล้วก็ลมที่แรงมากมายทีเดียว ที่นี่มีเนินทรายอยู่ 2 ที่ คือ เทือกเขาทรายขาวแล้วก็ภูเขาทรายแดง ซึ่งภูเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang แล้วก็มีห้องอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยสำหรับเทือกเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่ว่าเป็นที่นิยมมากกว่าในสายตาของตากล้อง เนื่องด้วยสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายภาพออกมาแล้วสีสวยกว่าที่ภูเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิตหมายถึงการเล่นกระดานเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาข้างล่างซึ่งอุปกรณ์สำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

รายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากนี้ : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ตอนที่ดีที่สุดสำหรับการมาเที่ยวคือ ช่วงเวลาเช้าหรือไม่ก็ช่วงเวลาเย็น เพราะตอนกลางวันถึงตอนเวลาบ่ายนั้นอากาศรวมทั้งแดดแรงมากมาย
เป็นยังไงบ้างคะ สำหรับสถานที่เที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีอีกทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ พูดได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้ตรวจตราท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่ๆ ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมถึงค่าครองชีพก็ไม่แพงอีกด้วยจ้ะ

ภูเขาทรายสองสีที่หมุยแหน นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังที่แห่งนี้ยืนยันได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทราย ด้วยเหตุว่าเทือกเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่คนจำนวนไม่น้อยเคยชินกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่และก็อยู่ใกล้กับหาดทราย จึงมีแดดแล้วก็ลมที่แรงมากทีเดียว ที่นี่มีเนินทรายอยู่ 2 ที่หมายถึงภูเขาทรายขาวรวมทั้งภูเขาทรายแดง ซึ่งภูเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang และก็มีห้องอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วย สำหรับภูเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แม้กระนั้นเป็นที่นิยมมากยิ่งกว่าในสายตาของคนถ่ายรูป ด้วยเหตุว่าสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายรูปออกมาแล้วสีสวยกว่าที่ภูเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิต คือ การเล่นบอร์ดเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาด้านล่าง ซึ่งเครื่องมือสำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านค้าที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

ข้อมูลอื่นๆ : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่เยี่ยมที่สุดสำหรับการมาท่องเที่ยว คือ ช่วงเวลาเช้าหรือไม่ก็ช่วงเวลาเย็นเพราะเหตุว่าช่วงเวลากลางวันถึงตอนบ่ายนั้นอากาศและแดดแรงมาก
เป็นไงบ้างขา สำหรับสถานที่เที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและก็ประวัติศาสตร์ เรียกได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้ตรวจตราท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่ๆ ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมทั้งค่าครองชีพก็ไม่แพงอีกด้วย

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เวียดนาม

5 ยอดเยี่ยมสถานที่เที่ยวในเวียดนามที่คุณจำเป็นต้องไป อัพเดท 2018

เมื่อพูดถึงเวียดนามใครๆก็ชอบรำลึกถึง โฮจิมินห์ เมืองหลวงทางตอนใต้ แต่ว่าทราบไหมมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆน่าดึงดูดอีกเพียบเลยในเวียดนามที่เดี๋ยวนี้กำลังเป็นกระแสอย่างมากๆที่คุณไปเวียดนามจำเป็นต้องไม่พลาด เรามาอัพเดทกันวันเที่ยวเวียดนามทั้งทีจะต้องสุดๆ5 สถานที่ที่แหน่งใดกันบ้าง เริ่มกันเลย

1. ท่องเที่ยวบาน่าฮิลล์ ดานัง (Bana Hill, Danang)
บานาฮิลล์ เป็น โฮเต็ล บนยอดดอย อยู่ห่างจากตัวเมืองดานังราวๆ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราวๆ 40-50 นาที ส่วนประวัติความเป็นมา ภูเขาบานา เคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยด้านบนเป็นบ้านพักแล้วก็โฮเต็ลของชาวฝรั่งเศสสมัยเป็นเจ้าอาณานิคมตั้งแต่ปี 1919 หลังการรบชาวประเทศฝรั่งเศสพ่ายแพ้กลับประเทศไป บานาฮิลล์ถูกทิ้งร้างอยู่หลายปี กระทั่งถูกกลับมาซ่อมแซมเป็นเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวมากมายเป็นจำนวนมากอีกรอบในปี 2009 ซึ่งมีการสร้างตะกร้าลอยฟ้า 5,801 เมตร ที่ใช้เวลาถึง 50 นาทีสำหรับในการนั่งกระเช้าจากด้านล่างขึ้นไปข้างบน ค่าใช้จ่ายสำหรับการก่อสร้างเคเบิลคาร์ตอนแรกมีมูลค่า 17.2 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา และช่วงที่สร้างต่อเพิ่มไปถึงยอดดอย มีมูลค่า 5.7 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา

ดังนี้ บานาฮิลล์ ถูกผลิตขึ้นตามมาตรฐานยุโรปโดยบริษัทที่มีชื่อจากประเทศออสเตรเลีย อุปกรณ์และเครื่องจักรนำเข้าจากยุโรป ตลอดทางประกอบไปด้วยเสา 24 ต้น มีทั้งสิ้น 94 เคบิน ตะกร้ามีทั้งแบบเปิดเตียนโล่งโอเพ่นแอร์กับแบบห้องกระจก แต่ละเคบินบรรทุกผู้โดยสารได้ 10 คน ด้านในหนึ่งชั่วโมงสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 1,500 คน

2.ท่องเที่ยวถ้ำฟองญา (Phong Nha Caves)
เวียดนาม เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดที่มีนานัปการ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่เที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ หรือแม้กระทั่งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความงามรวมทั้งน่ามาเยือนมากแห่งหนึ่งของโลก แล้วก็วันนี้เราจะขอเสนอแนะสถานที่เที่ยวที่มีความสวย แล้วก็ความตรึงใจ

โดยสถานที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงของอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่างเป็นถ้ำฟองญา (Phong Nha Cave) ฯลฯเกิดของแม่น้ำซอน (Son River) ที่สะสมน้ำจากใต้ดินไหลรวมกันมาจากข้างในถ้ำ และก็ได้รับการยินยอมรับจาก นักสำรวจถ้ำทั้งโลกว่า เป็นถ้ำอันดับหนึ่งของโลก เพราะว่าเป็นเจ้าของสถิติถึง 4 รายการเป็นต้นว่า น้ำลอดยาวที่สุดในโลก, โถงถ้ำสูงที่สุด ยาวที่สุด แล้วก็กว้างที่สุด

“อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง” (Phong Nha-Ke Bang National Park) คืออีกหนึ่งจุดหมายด้านการท่องเที่ยวที่น่ามาเยี่ยมมากมายแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความเด่นทางธรรมชาติและก็ทางธรรีวิทยา ที่มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง (หรือราว 400 ล้านปี) นั่นก็เลยทำให้สวนที่นี้มีตำแหน่งที่ตั้งแบบหินปูนที่โบราณที่สุดในเอเซีย อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง ตั้งอยู่ในอำเภอโบ๊จะ (Bo Trach) และก็อำเภอไม่ญหวา (Minh Hoa) ในเขตจังหวัดกว๋างบิ่ญ (Quang Binh) แล้วก็ติดชายแดนประเทศลาว ห่างจากกรุงฮานอยมาตอนใต้ประมาณ 500 กิโล ภายในเขตอุทยานมีกรุ๊ปหินปูนมีขนาดพื้นที่ 857.54 ตารางกิโลเมตร สวนนี้โด่งดังในความงดงามของถ้ำที่มีอยู่เยอะมากๆ และก็ยังเป็นสถานที่ 1 ใน 2 ของโลกที่เป็นหินปูนที่มีสายธารใต้ดินขนาดใหญ่

3.ท่องเที่ยวอ่าวฮาลอง (Ha Long Bay)
ฮาทดลองเบย์ หรือ อ่าวฮาลอง คือสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกที่ในประเทศเวียดนามที่เกียรติศักดิ์มีชื่อเสียงไปทั้งโลก ซึ่งนักเดินทางทุกคนไม่ควรพลาดชม โดยที่นี่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากหน่วยงานองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติเนื่องจากว่ามีความสวยสดงดงามของธรรมชาติล้นหลาม

ฮาลองเบย์ เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย เมืองฮาลองตั้งอยู่ทางตอนเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อยู่ภายในเขตพื้นที่จังหวัดกว่างนิงห์ ไม่ไกลจากกรุงฮานอยเมืองหลวง โดยห่างออกไปทางทิศตะวันออกประมาณ 170 กม. รวมทั้งอยู่ใกล้กับสาธารณรัฐประชาชนจีน ฮาทดลองเบย์ มีพื้นที่ทั้งสิ้น 1,500 ตารางกิโลเมตร มีริมฝั่งยาว 120 กิโล มีเกาะหินปูนปริมาณ 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวสมุทร บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่กับอย่างหนาแน่น หลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความสวยซุกซ่อนอยู่

สำหรับประวัติความเป็นมา ฮาทดลองเบย์ มีชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามว่า Vinh Ha Long คือ อ่าวมังกรผู้ดำตรง ตามตำนานประชาชนเวียดนามบอกกันว่า ในอดีตที่ชาวเวียดนามกำลังทำสงครามกับจีน เทวดาได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยเหลือ ซึ่งต่อมามังกรพวกนี้ได้ดำตรงลงสู่ท้องทะเลรอบๆอ่าวฮาทดลอง ทำให้มีอัญมณีและก็หยกพุ่งกระเด็นออกมาเปลี่ยนเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายตัวเป็นเกราะป้องกันผู้รุกราน แล้วก็บางตำนานพูดถึงสัตว์โบราณที่ชื่อว่า Tarasque ซึ่งมั่นใจว่าอาศัยอยู่ที่รอบๆตูดอ่าว

4.เที่ยวเมืองซาปา ท้องนาข้าวบนเขา (Sa Pa)
ซาขว้าง เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์สูงที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศเวียดนาม ด้วยพื้นที่อันสวยงามที่รุมล้อมไปด้วยภูเขาจนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลังคาโลกอินโดจีน ส่วนอากาศหนาวเย็นแทบทั้งปีทำให้ยามเช้าของตรงนี้มีไอหมอกปกคลุมสวย ในแต่ละปี ซาขว้าง ก็เลยดึงดูดนักเดินทางจากทั่วทั้งโลกให้แวะเวียนมาท่องเที่ยวได้จำนวนมาก

ในส่วนของประวัติความเป็นมา ซาปา เป็นเมืองเล็กๆที่นักเดินทางต่างชาติเริ่มเดินทางมาพักตั้งแต่ยุคที่ฝรั่งเศสยังปกครองประเทศเวียดนาม โดยชาวยุโรปชอบใจที่นี่เนื่องจากว่าอากาศดีแล้วก็สงบเงียบ ถัดมาซาปาจึงมีชื่อเสียงรวมทั้งเป็นที่นิยมจากนักเดินทางเยอะขึ้นจนถึงมีนักท่องเที่ยวมาเยือนหลายหมื่นคนต่อปี

5.เที่ยวหมุยแหน เทือกเขาทรายสองสี (The Sand Dunes of Mui Ne)
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังที่ที่นี้รับประกันได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทรายเพราะภูเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่คนไม่ใช่น้อยเคยชินกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่และก็อยู่ติดกับริมหาด จึงมีแดดและลมที่แรงมากทีเดียว ที่นี่มีเนินทรายอยู่ 2 ที่หมายถึงภูเขาทรายขาวแล้วก็เทือกเขาทรายแดง ซึ่งเทือกเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang และมีห้องอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วยสำหรับภูเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แม้กระนั้นเป็นที่ชื่นชอบมากกว่าในสายตาของคนถ่ายภาพ เนื่องด้วยสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายภาพออกมาแล้วสีงามกว่าที่ภูเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิตหมายถึงการเล่นกระดานเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาข้างล่างซึ่งวัสดุอุปกรณ์สำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านค้าที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

รายละเอียดเพิ่มเติม : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับในการมาเที่ยวเป็น เวลาเช้าหรือไม่ก็ตอนเย็น ด้วยเหตุว่าช่วงกลางวันถึงช่วงเวลาบ่ายนั้นอากาศรวมทั้งแดดจัดมากมาย
เป็นไงบ้างคะ สำหรับสถานที่เที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ กล่าวได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้ตรวจตราท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่นอน ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมทั้งค่าครองชีพก็ไม่แพงอีกด้วยจ้ะ

เทือกเขาทรายสองสีที่หมุยแหน นักเดินทางที่เดินทางมายังที่ที่นี้รับประกันได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทราย เพราะเทือกเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่หลายคนเคยชินกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่และอยู่ใกล้กับริมฝั่ง ก็เลยมีแดดแล้วก็ลมที่แรงมากทีเดียว ตรงนี้มีเนินทรายอยู่ 2 ที่ คือ ภูเขาทรายขาวและภูเขาทรายแดง ซึ่งภูเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang แล้วก็มีร้านอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วย สำหรับภูเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่ได้รับความนิยมมากกว่าในสายตาของคนถ่ายภาพ เหตุเพราะสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายรูปออกมาแล้วสีงามกว่าที่เทือกเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิตหมายถึงการเล่นกระดานเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาด้านล่าง ซึ่งเครื่องมือสำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านค้าที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

รายละเอียดเพิ่มเติม : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ว่าขณะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการมาเที่ยวหมายถึงช่วงเช้าหรือไม่ก็ตอนเวลาเย็นด้วยเหตุว่าช่วงเวลากลางวันถึงตอนเวลาบ่ายนั้นอากาศและแดดแรงมากมาย
เป็นไงบ้างขา สำหรับสถานที่เที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติรวมทั้งประวัติศาสตร์ พูดได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้ตรวจตราท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่ๆ ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมทั้งค่ายังชีพก็ไม่แพงอีกด้วย

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เวียดนาม

5 สถานที่เที่ยวในประเทศประเทศพม่าที่คุณต้องไป ไม่ใช่แค่การไปไหว้พระ อัพเดท 2018

ถ้าหากกล่าวถึง ประเทศพม่า เพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากประเทศไทย โดยมากผู้คนจำนวนมากมักนึกถึงการไปไหว้พระแค่นั้น แม้กระนั้นข้อเท็จจริงประเทศพม่า ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายสไตล์ ที่ควรค่าแก่การไปสัมผัสสักหนึ่งครั้ง วันนี้พวกเราสะสม 5 สถานที่เที่ยวประเทศพม่า นอกเหนือจากการไหว้พระ มาให้ทุกคนรู้จัก จะมีตรงไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย

1. เมืองประเทศพม่า ทะเลเจดีย์แล้วก็วิถีชีวิตแบบประเทศพม่าๆ
ถือเป็นโชคดีของชาวพุกาม ที่ศาสนาพุทธรุ่งโรจน์ถึงระดับสูงสุดเช่นเดียวกันในช่วงเวลานั้น ทำให้พระเจ้าอโนรธามังช่อรับเอาศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำประเทศ พระองค์สร้างเจดีย์ที่แรกขึ้น ชื่อ “เจดีย์ชเวซีโกน” แล้วต่อจากนั้นกษัตริย์รุ่นต่อๆมา รวมถึงเสนาบดีและก็ผู้มีอันจะกินทั้งหลายแหล่ในพุกามก็ระดมสร้างวัด สร้างเจดีย์กันเต็มพื้นที่ไปหมด คงจะเนื่องจากความศรัทธาที่ว่า ยิ่งเล่นใหญ่ เอ๊ย!! ยิ่งสร้างวัดใหญ่โตเท่าใด ยิ่งได้บุญกุศลบารมีมากเท่านั้น

อาณาจักรพม่าเคยรุ่งโรจน์ขนาดไหนพวกเราอาจไม่ต้องอธิบาย เนื่องจากเกือบจะ 1,000 ปีที่ล่วงเลยไปทุกสิ่งได้พิสูจน์ตนเองไปเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ตัวเราต่างหากที่จำเป็นต้องมาพิสูจน์ความโหฬารนั้นด้วยตาของเราเอง จากเจดีย์กว่า 4,446 องค์ วันนี้เหลือแค่ 2,200 กว่าองค์ ไม่รีบมาดูซะวันนี้ก็ไม่เคยทราบว่าอีกหน่อยจะเหลือให้มองขนาดไหน

2. ตะลุยสวนน้ำ Yangon Water Boom
หากโลกนี้มันร้อนนัก ก็ไปพักผ่อนเล่นน้ำกันที่สวนน้ำ Yangon Water Boom กันเลยดีกว่า! สถานที่เที่ยวในประเทศพม่า อีกแห่งที่อยากชักชวนคุณมาคลายร้อน โดยสวนน้ำ Yangon Water Boom ถือเป็นสวนน้ำแห่งแรกของเมียนมาร์ ตั้งอยู่ในเมืองปิ้งกุ้ง ตรงนี้คุณจะได้พบกับสไลด์เดอร์สุดแจ๋วสุดยอด “Free Fall Slides” หวาดเสียวกับสไลด์เดอร์ที่มีความสูงถึง 15 เมตร! ให้คุณไหลลื่นลงมาด้วยความเร็วกว่า 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง เรียกว่าเสียวกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว หรือจะเป็น “Python” ให้คุณรวมทั้งเพื่อนๆนั่งสไลด์เดอร์ไปสนุกสนานร่วมกัน ผ่านท่อสีเขียวที่วนเวียน ยาวกว่า 60 เมตร! นอกเหนือจากนี้ยังมีโซนสำหรับหนูน้อยอย่าง “Kiddy pool” สนามเด็กเล่นที่ให้น้องๆได้ชุ่มฉ่ำกับสายน้ำเย็น พร้อมบริการอุปกรณ์สำหรับอำนวยความสะดวกทั้งล็อกเกอร์ บังกะโล ซาลอน ร้านอาหาร ร้านขายของของที่ระลึก อย่างครบถ้วน หนีร้อนไปสนุกสนานกับสวนน้ำในย่างกุ้งกันเลยดีกว่า

3. ท่องเที่ยวสะพานอูเบ็ง สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก!
สะพานไม้โบราณ ที่แก่กว่า 200 ปี ทอดยาวด้วยความยาว 1,200 เมตร ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน สร้างด้วยไม้ปริมาณพันกว่าต้น พวกเราสามารถเดินชมสะพานไม้ไปเรื่อยๆได้ รวมทั้งยิ่งในขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะตกลงน้ำ(ดิน) บรรยากาศรอบๆบริเวณสะพาน จะเห็นได้ว่าแสงพระอาทิตย์เป็นประกายกับสายน้ำ นอกจากจะได้ชมความสวยของดวงอาทิตย์ขึ้นแล้วก็ตกแล้ว ยังได้เห็นวิถีชีวิตของคนภรรยานมาด้วย เป็นประสบการณ์ที่สุดติดตราตรึงใจกันเลยทีเดียว

ของร้านค้าขายน้ำดื่ม ขายอาหารบนเกาะ ชมดวงตะวันตกในทะเลสาบ แถมมีปลาและกุ้งใหม่ๆจากทะเลสาบ ให้ได้ลิ้มชิมรส นั่งพักผ่อนสบายๆแล้วคอยดูพระอาทิตย์ตกได้อีกด้วย วิธีในที่สุดเป็นวิธีที่เสียตังต่ำที่สุดหมายถึงสามารถยืนดูวิวบนสะพานได้เลย ได้สัมผัสบรรยากาศไปอีกคนละอย่างจ้า

4. ทะเลสาบอินเล ทะเลสาบน้ำจืด และก็วิถีชีวิตคนอินเล
ทะเลสาบอินเล ตั้งอยู่กึ่งกลางประเทศพม่าเลยก็ว่าได้ ทะเลสาบอินเลอยู่ในเมือง Nyaung Shwe เมืองเล็กๆที่ชาวบ้านดำเนินชีวิตท่ามกลางทะลสาบ .. หื้มมม? เป็นชาวบ้านเค้าสร้างบ้านและก็อาศัยกันในทะเลสาบเลยมึงรเอ้ยยย ต่อไปนี้เนี่ย แน่ๆการดำเนินชีวิตแล้วก็การเพาะปลูกหรือเกษตรกรรมของเค้าต้องเกี่ยวกับทางทะเล ดังเช่นว่า การปลูกมะเขือเทศบนสวนลอยน้ำ การผลิตบ้านแบบเสาค้ำกึ่งกลางน้ำ รวมถึงยานพาหนะจำเป็นต้องอย่างเรือ ที่แน่นอนมีจอดอยู่ทุกบ้าน แล้วที่สุดของทะเลสาบอินเลเป็นความสามารถพิเศษของชาวอินคาเนี่ยล่ะ การนำยเรือด้วยเท้าฝ่ายเดียวในการเดินทางรวมถึงจับสัตว์ในน้ำที่ไม่มีใครเหมือนในโลก ดังมากมายเว้ย ดังจนกระทั่งตรงนี้เป็นอีกจุดหมายนึงที่นักเดินทางจะต้องมาดูเลยล่ะ รู้อย่างงี้แล้วตามไปเลยสิจ้าา

5. สัมผัสเกาะหัวใจมรกต ที่สมุทรเมียนมาร์.
เกาะค๊อกคอม เกาะหัวใจมรกต (Cocks Comb) เป็นเกาะที่อยู่ในสมุทรอันดามัน ซึ่งอยู่ห่างจากริมฝั่งจังหวัดระนองแค่เพียงราว 81.2 กิโลเพียงแค่นั้น เกาะที่นี้มีลักษณะเป็นเกาะหินปูน ไม่มีหาดทราย มีช่องว่างอยู่กลางเกาะ คล้ายกับปากปล่องภูเขาไฟ มีช่องเล็กๆให้น้ำทะเลเข้าไปได้ แม้มองจากมุมสูงจะมีความเห็นว่าช่องตรงกลางนี้มีรูปร่างคล้ายกับรูปหัวใจ เมื่อมีน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวใสแจ๋วเข้าไปในนั้น เพิ่มเติมกับรอบๆรอบปากปล่องมีต้นไม้สีเขียวขจี ทำให้รูปร่างหัวใจนี้เห็นชัดเจน จนได้รับการขนานนามจากคนไทยว่าเป็น “เกาะหัวใจมรกต” ซึ่งชาวต่างชาติจะรู้จักกันในนาม “Hidden Lagoon”

มองเห็นไหมล่ะว่า การไปท่องเที่ยวประเทศพม่า ก็ไม่ได้มีแต่ว่าการไปไหว้พระ หรือ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียวเท่านั้น พม่ายังมีแหล่งธรรมชาติงามๆอีกมากมาย ถูกใจคนถูกใจท่องเที่ยวชิลล์ๆสไตล์สโลว์ไลฟ์ ถ้าเกิดได้โอกาสทดลองไปเปิดมุมมองใหม่ให้การเที่ยวเมียนมาร์กว้างขึ้นกว่าเดิม

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

5 สถานที่เที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ ที่คุณห้ามพลาดเป็นอันขาด อัพเดท 2018

เกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่คนประเทศไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว ด้วยเหตุว่าใช้เวลาเดินทางไม่นานเพียง 5-6 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว และก็ยังเป็นประเทศไม่ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวอีกด้วย ถ้าหากจะเอ๋ยถึงสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีนั้นที่จริงแล้วมีมากไม่น้อยเลยทีเดียวหลายที่ ด้วยเหตุนี้คนไหนกันแน่กำลังแพลุกลี้ลุกลนไปเที่ยวหรือกำลังตัดสินใจว่าจะท่องเที่ยวประเทศไหนดี ลองตามมาดู 15 สถานที่เที่ยวห้ามพลาดในประเทศเกาหลี แล้วต้องอยากไปเที่ยวแน่นอน

1. พระราชวังเคียงบกกุง Gyeongbokgung Palace
พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า “พระราชวังคยองบกกุง” เป็นอีกทั้งสัญญลักษณ์และแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของกรุงโซล พระราชสำนักที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล ผลิตขึ้นในปี 1394 ในยุคพระเจ้าแทโจ วงศ์สกุลโชซอน แต่เดิมนั้นภายในราชสำนักมีอาคารและก็วังต่างๆมากกว่า 200 ข้างหลัง แต่ว่าเมื่อมีการรุกรานของญี่ปุ่น อาคารส่วนมากก็ได้ถูกทำลายลงหลงเหลืออยู่เพียงแต่ 10 ข้างหลังแค่นั้น

2. เกาะนามิ สุดโรแมนติเตียนค Namiseom Island
เกาะนามิมีสาเหตุมาจากผลของการกั้นน้ำเพื่อสร้างเขื่อน มีพื้นที่ประมาณ 270 ไร่ มีลักษณะเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว บนเกาะนี้โด่งดังในหมู่คนประเทศเกาหลีมานานเนื่องมาจากมีธรรมชาติที่สวยสดงดงามยังมีสัตว์เล็กๆอาศัยอยู่ตามธรรมชาติได้แก่ กระรอก กระแต นก หงส์ ห่าน รวมทั้งนกกระจอกเทศด้วย และตรงนี้จะนำสายไฟลงใต้ดินทั้งหมด เพียงแต่รักษาความยุติธรรมชาติเอาไว้ โดยขณะที่มีนักท่องเที่ยวมาสูงที่สุดจะเป็นช่วงๆฤดูใบไม้ร่วง เพราะเหตุว่าต้นไม้มากที่นี่จะเปลี่ยนสีเหลือง สีแดง สีส้ม โดยยิ่งไปกว่านั้นทางเท้าใต้ต้นแปะก๊วยที่จะเปลี่ยนแปลงใบเป็นสีเหลืองสดสวยงามมากมาย แม้กระนั้นที่นี่คนจะเยอะตลอดทุกฤดู

3. ทางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา – Gyeonghwa Station
ทางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา – Gyeonghwa Station ยอดเยี่ยมในจุดดูซากุระที่สวยลำดับหนึ่งของประเทศเกาหลีเลยก็ว่าได้ โดยสามารถเห็นรถไฟที่วิ่งมาจอดที่สถานีพร้อมทั้งวิวอุโมงค์ดอกซากุระที่เรียงรายกันอยู่เต็มทั้งสองข้างทางในตอนราวต้นเดือนเดือนเมษายน สถานีรถไฟคยองฮวาแห่งนี้เป็นสถานีเล็กๆที่อยู่ที่เมืองจินแฮ (Jinhae) จังหวัดเคียงซังนัมโด (Gyeongsangnam-do) ได้มีการยกเลิกการใช้แรงงานไปแล้วตั้งแต่ปี 2015 แต่ว่าจะเปิดให้รถไฟวิ่งเฉพาะในตอนเทศกาล Jinhae Gunhangje Festival ซึ่งเป็นเทศกาลดูดอกซากุระที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ของเมืองจินแฮ แต่ว่ารถไฟนั้นจะไม่ได้มาหยุดที่สถานี เพียงแต่ใช้เป็นทางผ่านไปยังสถานีอื่นๆ

4. อุโมงค์ซากุระ ลำคลองยอชวาชอน – Yeojwacheon Stream
อุโมงค์ซากุระ ลำคลองยอชวาชอน – Yeojwacheon Stream ยอดเยี่ยมในจุดที่มีชื่อเยอะที่สุดสำหรับเพื่อการชมดอกซากะของเมืองจินแฮ เริ่มมีชื่อเสียงกันภายหลังจากซีรีย์เรื่อง Romance ถ่ายทอดเมื่อปี 2002 ซึ่งใช้คลองที่นี้เป็นฉากในการถ่ายทำ โด่งดังกระทั่งมีชื่อเรียกสะพานที่ใช้ผ่านลำคลองตามชื่อซีรีย์ซึ่งก็คือ Ramance Bridge

ในทุกๆเมษายนของทุกปีซึ่งเป็นช่วงที่มีเทศกาลชมดอกซากุระ ที่ลำคลองแห่งนี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมความสวยของดอกซากุระ สามารถเดินเล่นได้ทั้งด้านบนสะพานและด้านล่างซึ่งจะมีทางเท้ายาวตลอดแนวเรียบไปกับคลองน้ำ และก็ยังมีดอกเรปซีดซึ่งเป็นดอกไม้ต้นเล็กออกดอกสีเหลืองบานพร้อมซากุระอีกด้วย แต่ละปีก็จะมีการประดับประดาตกแต่งบริเวณลำคลองในตอนที่จัดงานเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นการนำร่มที่สีสันผ่องใสมาแขวนไว้หรือจะเป็นโคมรูปหัวใจน่ารักๆและก็ในตอนตอนกลางคืนก็จะเปิดไฟเสริมแต่งงามมากมาย

5. ย่านช้อปปิ้งเมียงมองป่า หรือ มยองป่าดง
ย่านช้อปปิ้งเมียงมองดง หรือ มยองป่าดง (Myeong-dong) ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางกรุงโซล เป็นเขตช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมและก็คักคักที่สุดของกรุงโซล ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน อีกทั้งยังสามารถเดินทางได้สะดวก ถือว่าเป็นศูนย์กลางของการบ้านการเมือง เศรษฐกิจ และก็วัฒนธรรมอย่างยิ่งจริงๆ ภายในตลาดเมียงป่าดงเต็มไปด้วยร้าน และก็ห้องอาหารนับไม่ถ้วน เป็นเลิศในสถานที่ยอดฮิตของนักเดินทางและนักช้อป

ห้างสรรพสินค้า
ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุด ดังเช่นว่า ห้างลอตเต้(Lotte) กับห้างคุ้นชินเซมึง(Shinsegae) ส่วนร้านขายของอื่นๆก็ตั้งอยู่ทุกซอกมุม รวมทั้งแผงลอยข้างถนนที่จัดจำหน่ายเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องแต่งตัว ผลิตภัณฑ์อื่นๆในราคาไม่แพง และก็ของหวานแสนอร่อย โดยเถ้าแก่ส่วนใหญ่สามารถกล่าวภาษาอังกฤษ ประเทศญี่ปุ่น จีน แล้วก็ไทยได้

เป็นยังไงบ้าง 5 สถานที่เด็ดไหม สามารถติดตามดูการจัดสถานที่เที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีอีกมากมายจริงๆประเทศนี้เที่ยวยังไงก็ไปไม่หมดกล้วยๆหวังว่าเพื่อนๆคงจะชอบ และก็ติดตามบทความของพวกเรา คนไหนกันถูกใจได้โปรดกรุณาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกันด้วยนะ แล้วเจอกันตอนใหม่

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เกาหลี

ท่องเที่ยวเมียนมาร์สักการะ 3 ใน 5 สิ่งศักสิทธิ์ของเมียนมาร์

สรรเสริญพระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระธาตุประจำปีเกิดของปีมะเมีย สักการะพระบรมธาตุมุเตา เยอะที่สุดของประเทศพม่า ไหว้พระธาตุอินทร์แขวน พระบรมสารีริกธาตุประจำปีกำเนิดของปีจอ
1. พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
ถ้าเกิดจะเอ่ยถึงการไปท่องเที่ยวประเทศพม่าแล้ว อาจไม่มีใครไม่เอ่ยถึง พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เจดีย์ประจำเมืองประเทศพม่า ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมียนมาร์ อีกทั้งคนต่างชาติที่มาท่องเที่ยวพม่าต่างพากันเดินทางเพื่อมาสักกาะระ เป็นเจดีย์ที่แก่ดั้งเดิมกว่า 2,000 ปี เป็นที่ติดตั้งพระเส้นผมธาตุ 8 เส้น ของพระพุทธเจ้า และมีความใหญ่โตตระการตา โดยมากถึง 326 ฟุต กว้าง 1,355 ฟุต ซึ่งมีสาเหตุจากแรงเลื่อมใสของชาวเมียนมาร์ ด้วยกันบริจาคเงินทองทรัพย์สิน ก่อเสริมเจดีย์ให้สูงใหญ่เพิ่มขึ้นเรื่อยมีทองคำแท้เผยเป็นแผ่นเรียงต่อกันห่อหุ้มตัวเจดีย์ไว้ โดยมีน้ำหนักถึง 1,100 โลเลยทีเดียว ทำให้เจดีย์แห่งนี้ มีสีทองสัมฤทธิ์งาม ส่องให้มองเห็นอีกทั้งช่วงเวลากลางวันช่วงเวลาค่ำคืน ยิ่งไปกว่านี้ ด้านบนยอดเจดีย์ยังถูกประดับประดาไปด้วยอัญมณีอันเลอค่า ส่งแสงระยิบระยับมองเห็นมาแต่ไกลผู้คนที่มาเที่ยวพม่า นอกจากจะมาสรรเสริญความงดงามของพระมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว จำเป็นต้องไปนั่งสวดมนต์ตั้งจิตอธิษฐานรวมทั้งกราบขอพรต่อมหาเจดีย์ในลานสัมฤทธิผล หรือ ลานอธิษฐาน เพราะเหตุว่ามั่นใจว่าจะประสบผลสำเร็จดังที่มุ่งมาดปรารถนา ต่อด้วยการสรงน้ำพระประจำวันเกิดที่ประดิษฐานอยู่ทั้งแปดด้านรอบองค์เจดีย์และก็มีพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์ให้ได้บูชาขอพร
2. พระบรมธาตุมุเตา หรือ พระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ
ได้ไปเที่ยวประเทศพม่าดูความงดงามของเจดีย์ชเวดากองตามแบบฉบับของชาวเมียนมาร์กันแล้ว มุ่งสู่กรุงหงสาวดีดูความสวยสดงดงามในแบบอย่างมอญกันบ้างที่ พระบรมสารีริกธาตุมุเตา หรือพระมหาเจดีย์ชเวมอดอ เป็นเจดีย์โบราณอายุดั้งเดิมกว่า 2,000 ปีและก็ยังเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในประเทศพม่าอีกด้วย ภายในเจดีย์บรรจุพระเกศธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อสร้างมาตั้งแต่สมัยมอญเรืองอำนาจ ทำให้ต้นแบบที่เห็น เป็นสถาปัตยกรรมของชาวมอญทุกอย่าง โดยมีฉัตรแบบเรียบองค์ระฆังของเจดีย์มีลักษณะแคบเรียว ด้านในเป็นก้อนอิฐกลวง โดยมีความจำเป็นทางประวัติศาสตร์เป็น ใช้เป็นที่ทำพระราชพิธีเจาะพระหูของพระผู้เป็นเจ้าตะโกนชะเวตี้เมื่อครั้งท่านขึ้นครองราชย์ใหม่ๆถัดมาพระผู้เป็นเจ้าบุเรงนองได้สร้างฉัตรมอบให้เพิ่มอีกหลายชั้น พูดกันว่าก่อนที่พระองค์จะออกทำศึกเมื่อใด จะทรงมานมัสการพระมหาธาตุนี้ก่อนทุกคราว แล้วก็สมเด็จพระพระราชามหาราชเมื่อครั้งเคลื่อนพลมาตีหงสาวดีก็ได้เสด็จมานมัสการ ณ ที่แห่งนี้เหมือนกัน ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาได้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง และครั้งที่หนักที่สุด ทำให้ยอดพระมหาธาตุพังทลายลงมา ซึ่งก็ได้รับการบูรณะแล้วก็จัดโชว์ซากของพระมหาธาตุองค์เดิมไว้ที่เดิมให้ผู้มาเที่ยวเมียนมาร์ได้สักการะคู่กันกับองค์ตอนนี้ ซึ่งนี่เองที่นับว่าเป็นจุดอธิษฐานศักดิ์สิทธิ์ โดยกรรมวิธีอธิษฐาน ให้เอามือรวมทั้งหน้าผากแตะต้องไปที่พระบรมสารีริกธาตุองค์เดิมที่หัก แล้วก็อธิษฐาน สิ่งที่ขอก็จะสำเร็จผล
3. พระบรมสารีริกธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจครั้งโย
พระธาตุอินทร์ห้อย หรือ ไจครั้งโย ในภาษามอญ แสดงว่าหินรูปหัวฤๅษี เป็นก้อนหินแห่งเลื่อมใส มีลักษณะเป็นหินสีทองคำขนาดใหญ่สูง 5.5 เมตร หนักกว่า 600 ตันตั้งอยู่บนผาชัน แม้มองดูด้วยสายตาแล้ว กว่าครึ่งของเนื้อหินนั้นยื่นออกมานอกผาแถมผายังเอียงลงต่ำ ทำให้ดูอย่างกับว่าหินวางอยู่อย่างล่อแหลมเสมือนจะหล่นลงมา แต่กลับตั้งตระหง่านบนจุดที่สัมผัสกับพื้นดินเพียงแค่น้อยนิด ไม่กลัวต่อแรงดึงดูดหรือลมฝนแต่อย่างใด อย่างกับถูกพระอินทร์มาจับแขวนเอาไว้ ก็เลยได้เรียกกันว่า พระธาตุอินทร์ห้อยยิ่งกว่านั้น ยังมีเจดีย์สร้างไว้บนก้อนหิน ได้ถูกจำทดลองเป็นพระผมแก้วจุฬามณี ซึ่งเป็นพระบรมสารีริกธาตุรายปีจอ ที่คนเกิดปีนี้จำเป็นต้องไปเที่ยวเมียนมาร์ เพื่อไปนมัสการสักหนึ่งครั้งหนึ่งในชีวิต เชื่อกันว่า ถ้าเกิดคนใดกันได้มานมัสการพระบรมสารีริกธาตุอินทร์ห้อยนี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแต่ว่าความสำราญความรุ่งโรจน์ พร้อมทั้งขอสิ่งใดก็จะได้สมดุจมุ่งมาดปรารถนาทุกสิ่ง

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

เยือนมัณฑะเลย์ เมืองที่มนต์เสน่ราชเมืองท้ายที่สุดของประเทศพม่า

“เยี่ยมมัณฑะเลย์ เมืองที่มนต์เสน่ราชบุรีท้ายที่สุดของประเทศพม่า”
วันนี้พวกเราจะมาชี้แนะสถานที่ท่องเที่ยงในเมียนมาร์อีกมุมมองหนึ่งก็คือเมืองมัณฑะเลย์ มัณฑะเลย์เป็นเมืองที่มีอารายธรรมส่วนตัว เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวเผลอไผลจนกระทั่งไม่รู้เรื่องลืม
มัณฑะเลย์เป็นอดีตเมืองหลวงราชจังหวัดสุดท้ายก่อนจะเสียประเทศให้กับการรุกรานของอังกฤษ ที่นี่ถือเมืองใหญ่ชั้นที่สองของประเทศพม่ารองจากนครย่างกุ้ง ตั้งอยู่ในเขตฝั่งตะวันออกของแม่น้ำอิรวดี ห่างจากย่างกุ้งโดยประมาณ 716 กิโลแล้วก็พระเจ้าไม่นดงทรงย้ายราชเมือง มาก่อตั้งเป็นเมืองหลวงราชจังหวัดในปี คริสต์ศักราช 2400 โดยพระเจ้าไม่นป่าดง โดยตั้งชื่อตามภูเขามัณฑะเลย์ ที่อยู่ใกล้เคียง วงเวียนของเมืองมัณฑะเลย์
พม่า
เป็นเมืองโบราณตั้งแต่ยุคพุทธศตวรรษที่ 16 เป็นเมืองที่ติดอันดับเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ที่งดงามมากมายแห่งหนึ่งของประเทศพม่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งความใหญ่โตของเจดีย์เยอะมากๆกว่า5,000 องค์ จนได้รับนามสมมุติว่าเป็นเมืองที่เจดีย์สี่พันองค์ ซึ่งเป็นลักษณะที่บ่งถึงความเจริญรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในประเทศเมียนมาร์ได้เป็นอย่างดีคนทั่วๆไปก็เลยเรียกเมืองพูกามนี้ว่าเป็นอู่อาริยธรรมของประเทศ
ภูเขามัณฑะเลย์ฮิลล์
เป็นจุดสำหรับชมวิวงามแล้วก็มีสถานที่ควรค่าแก่การเคารพบูชาหลักๆให้นักเดินทางได้ชม ทั้งยังมองธรรมชาติ ดูทัศนียภาพอันสวยที่สุด และก็สามรถดูเมืองมัณฑะเลย์ ได้เกือบจะทั้งหมด สามารถเห็นทิวทัศน์ของเมืองมัณฑะเลย์ได้เป็นอย่างดี เป็นสถานที่สำหรับท่องเที่ยวที่นักเดินทางต่างพากันแวะเวียนมาสัมผัส ท่องเที่ยวชมตลอดระยะเวลา
สะพานไม้อูเบ็ง
สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก สร้างขึ้นในยุคพระเจ้าโบดอพญา ผลิตขึ้นเพื่อข้ามทะเลสาบToungthamon ระยะทางกว่า 1 กม. จุดเด่นของสะพานเเห่งนี้นอกจากจะเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดเเล้วนั้น สะพานอูเบ็ง ยังสร้างจากไม้สัก ที่รื้อมาจากพระราชสำนัก เเห่งกรุงอังวะ
ใส่บาตรพระ
กิจกรรมยอดฮิตที่พลาดไม่ได้เมื่อไปเยื่อนเมียนมาร์คือการตักบาตรพระ ในช่วงเวลาสายๆจะมีพระพม่าเดินเข้าแถวออกมาเพื่อรับบิณฑบาตโดยใช้บาตรที่ทำจากไผ่สานลงรักสีดำสนิท โดยบริเวณวัดจะมีคนมาเร่ขายคอกไม้ ข้าวโพดต้ม กับข้าวต่างๆหรือถ้าไม่ได้อยากต้องการซื้อเราสามารถถวายเงินตามกำลังเชื่อถือได้เลย
นี่เป็นเพียงภาพบรรยากาศส่วนใดส่วนหนึ่งของเมืองมัณฑะเลย์ นอกเหนือจากนี้ประเทศพม่ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวย รวมทั้งน่าดึงดูดอีกเยอะแยะที่ยังรอคอยพวกเราไปสัมผัสไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิต และก็วัฒนธรรมที่มีความคล้ายคลึงกับไทยพวกเรา แล้วก็ที่สำคัญใช้เวลาเดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้ใดมีเวลาว่างๆก็อย่าลืมพม่า ไม่งกะละบานะคะ

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

เยี่ยมมัณฑะเลย์ เมืองที่มนต์เสน่ราชจังหวัดสุดท้ายของพม่า

“เยี่ยมมัณฑะเลย์ เมืองแห่งมนต์เสน่ราชจังหวัดในที่สุดของเมียนมาร์”
วันนี้พวกเราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยงในเมียนมาร์อีกมุมมองหนึ่งก็คือเมืองมัณฑะเลย์ มัณฑะเลย์เป็นเมืองที่มีอารายธรรมส่วนตัว เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวเผลอไผลจนกระทั่งไม่รู้จักลืม
มัณฑะเลย์เป็นอดีตเมืองหลวงราชธานีสุดท้ายก่อนจะเสียประเทศให้กับการรุกรานของอังกฤษ ตรงนี้ถือเมืองใหญ่อันดับที่สองของเมียนมาร์รองจากนครปิ้งกุ้ง ตั้งอยู่ในเขตฝั่งตะวันออกของแม่น้ำอิรวดี ห่างจากปิ้งกุ้งราว 716 กิโลแล้วก็พระผู้เป็นเจ้ามินป่าดงทรงย้ายราชเมือง มาก่อตั้งเป็นเมืองหลวงราชเมืองในปี ค.ศ. 2400 โดยพระผู้เป็นเจ้ามินป่า โดยตั้งชื่อตามเทือกเขามัณฑะเลย์ ที่อยู่ใกล้เคียง วงเวียนของเมืองมัณฑะเลย์
พูกาม
เป็นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 16 เป็นเมืองที่ติดอันดับเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ที่สวยงามมากมายแห่งหนึ่งของประเทศพม่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งความโหฬารของเจดีย์หลายชิ้นกว่า5,000 องค์ จนได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองที่เจดีย์สี่พันองค์ ซึ่งเป็นลักษณะที่บ่งถึงความรุ่งเรืองของศาสนาพุทธในประเทศพม่าได้เป็นอย่างดีคนทั่วไปจึงตั้งชื่อเมืองพุกามนี้ว่าเป็นอู่อาริยธรรมของประเทศ
ภูเขามัณฑะเลย์ฮิลล์
เป็นจุดสำหรับเพื่อชมวิวสวยสดงดงามแล้วก็มีสถานที่ควรค่าแก่การเคารพบูชาสำคัญๆให้นักเดินทางได้ชม อีกทั้งดูธรรมชาติ มองทัศนียภาพอันงามที่สุด และก็สามรถยนต์มองเมืองมัณฑะเลย์ ได้แทบทั้งสิ้น สามารถเห็นทิวทัศน์ของเมืองมัณฑะเลย์ได้เป็นอย่างดี เป็นสถานที่สำหรับท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต่างพากันแวะเวียนมาสัมผัส เที่ยวดูตลอดระยะเวลา
สะพานไม้อูเบ็ง
สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก ผลิตขึ้นในสมัยพระผู้เป็นเจ้าโบดอพญา สร้างขึ้นเพื่อข้ามทะเลสาบToungthamon ระยะทางกว่า 1 กม. คุณลักษณะเด่นของสะพานเเห่งนี้นอกเหนือจากที่จะเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดเเล้วนั้น สะพานอูเบ็ง ยังสร้างขึ้นจากไม้สัก ที่รื้อมาจากราชสำนัก เเห่งกรุงอังวะ
ใส่บาตรพระ
กิจกรรมยอดฮิตที่พลาดมิได้เมื่อไปเยื่อนเมียนมาร์เป็นการตักบาตรพระ ในเวลาสายๆจะมีพระประเทศพม่าเดินเรียงแถวออกมาเพื่อรับบิณฑบาตโดยใช้บาตรที่ทำมาจากไม้ไผ่สานลงรักสีดำสนิท โดยบริเวณวัดจะมีคนมาเร่ขายคอกไม้ ข้าวโพดต้ม กับข้าวต่างๆหรือหากไม่ต้องการที่จะอยากซื้อพวกเราสามารถมอบเงินตามกำลังเชื่อถือได้เลย
นี่เป็นเพียงแค่ภาพบรรยากาศส่วนหนึ่งส่วนใดของเมืองมัณฑะเลย์ ยิ่งไปกว่านี้ประเทศพม่ายังมีสถานที่เที่ยวที่สวย รวมทั้งน่าดึงดูดอีกมากมายที่ยังคอยเราไปสัมผัสไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิต และวัฒนธรรมที่มีความคล้ายคลึงกับไทยพวกเรา และที่สำคัญใช้เวลาเดินทางเพียงแต่ไม่กี่ชั่วโมง ผู้ใดมีเวลาว่างๆก็อย่าลืมพม่า ไม่งกะละบานะคะ

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

ข้อมูลที่ควรทราบในประเทศพม่า

การตรวจลงยี่ห้อ (VISA) 
ชาวไทยที่ถือหนังสือเดินทางธรรมดาต้องขอรับการตรวจลงตราจากสถานทูตประเทศพม่าก่อนเดินทางไปพม่า ซึ่งโดยทั่วไปจะมีอยู่ 3 ชนิด เป็น
– Tourist Visa พำนักอยู่ในเมียนมาร์ได้ 4 อาทิตย์
– Business Visa พำนักอยู่ในประเทศพม่าได้10 สัปดาห์
– Entry Visa อาศัยอยู่ในประเทศพม่าได้ 4 สัปดาห์
ผู้ที่อยากอยู่ในประเทศพม่าเกินกว่า 4 อาทิตย์ ต้องยื่นเรื่องขอ Stay Permit จากกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองของเมียนมาร์ ดังนี้คนที่อยู่ในเมียนมาร์เกินกว่า 4 สัปดาห์ ต้องยื่น Departure Form ต่อทางการเมียนมาร์ก่อนที่จะเดินทางออกนอกเมียนมาร์
การดำรงชีวิต ชีวิตความเป็นอยู่ในพม่า มีความสบายเฉพาะอยู่ในกรุงย่างกุ้งและก็เมืองใหญ่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเท่า นั้น ในกรุงปิ้งกุ้งมีโฮเต็ลเกรดเอได้มาตรฐานหลายที่ สำหรับผู้ที่จะไปอยู่เพื่อดำเนินการหรือประกอบธุรกิจมีที่พักให้เลือกทั้งบ้านเช่า หรือ Serviced apartment การอยู่อพาร์ทเมนท์มีข้อดีในแง่ผู้เช่าไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลหรือกลุ้มใจปัญหาไฟฟ้าและน้ำ ประปา แม้กระนั้นค่าใช้จ่ายสำหรับเช่าออกจะสูงส่วนผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในกรุงปิ้งกุ้งหาซื้อได้ทั่วไปโดยมีผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากไทยหลายสิ่งหลายอย่างและก็ในกรุงย่างกุ้งมีร้านอาหารไทยหลาย ร้าน คนที่จะเข้าไปเขตวัดหรือพุทธเจดีย์ จะต้องถอดรองเท้ารวมทั้งถุงเท้า บางที่เรียกเก็บเงินค่าเข้าชมสถานที่ด้วย รัฐบาลได้กำหนดห้ามคนต่างประเทศเดินทางไปยัง บางเมืองหรือบางพื้นที่ถ้านักท่องเที่ยวอยากไปเมืองที่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวของเมียนมาร์ ควรจะตรวจทานข้อมูลกับบริษัทนำเที่ยวก่อนในกรุงย่างกุ้งมีรถยนต์โดยสารประจำทางแล้วก็รถยนต์ แท็กซี่ แต่คนขับแท็กซี่โดยมากพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ราคาขึ้นกับการเจรจาต่อรองเนื่องมาจากรถแท็กซี่ไม่มีมิเตอร์ ในกรุงปิ้งกุ้งมีสถานพยาบาลที่ล้ำสมัยไม่ กี่ที่ แล้วก็เหมาะเพียงการปฐมพยาบาลเพียงแค่นั้น ผู้เดินทางไปเมียนมาร์ควรจะเตรียมยา ดังเช่นว่า ยาแก้ไข้หวัด ยาแก้ท้องร่วง แล้วก็ยาประจำตัวไปด้วย รวมทั้งควรที่จะเลือกทานอาหารที่สะอาด
ข้อเสนอ กรณีหนังสือเดินทางหาย ขอให้รีบแจ้งความต่อโรงพักท้องถิ่น แล้วนำหลักฐานการแจ้งความไปยื่นต่อสถานทูต เพื่อขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ถ้าเกิดหนังสือเดินทางหมดอายุก็สามารถขอยืดอายุหรือขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ที่สถานทูตได้เหมือนกัน ผู้ที่อยู่ในประเทศพม่าควรจะสำรวจอายุหนังสือเดินทางอยู่เสมอ
ข้อควรกระทำ
1 ในที่สาธารณะควรจะแต่งตัวสุภาพมีมารยาท รัดกุม เรียบร้อย โดยเฉพาะการเข้าไปในวัดและศาสนสถานจะต้องถอดถุงเท้า รองเท้า ถุงน่อง คุณผู้หญิงไม่ควรแต่งกายด้วยกระโปรงสั้น กางเกงขาสั้น
2 ควรมีความเรียบร้อยในวัดและศาสนสถาน ไม่ส่งเสียงดังก่อกวนคนอื่นๆ (ดังนี้ วัดบางแห่งบางทีอาจเรียกเก็บค่าเข้าชมด้วย)
3 ควรจะให้ความเคารพต่อผู้สูงวัย แล้วก็ใช้กริยาคำพูดสุภาพเรียบร้อยเรียบร้อย
4 ต่อราคาสินค้าแล้วก็ค่าโดยสารรถแท๊กซี่ได้
5 ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพควรจะเตรียมพร้อมยาประจำตัวมาด้วย
6 ควรระมัดระวังเลือกกินอาหารและน้ำดื่มจากร้านที่สะอาดถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำดื่ม ควรดื่มน้ำที่บรรจุในขวด
7 ควรจะแลกเงินดอลลาร์สหรัฐประจำตัวมาให้เพียงพอด้วยเหตุว่าโรงแรมร้านขายของในพม่า ส่วนใหญ่จะไม่รับบัตรเครดิตหรือ Traveller’s Cheque สภาพของธนบัตรควรอยู่ในสภาพใหม่ ดี ไม่ยับไม่มีรอยขูดขีดและควรจะเป็นธนบัตรรุ่นใหม่ ดังนี้ธนบัตร 100 ดอลลาร์สหรัฐ เป้าหมายเลขเริ่มต้นด้วย CB โรงแรมรวมทั้งร้านในประเทศพม่าบางทีอาจปฏิเสธที่จะไม่รับ
8 เนื่องจากว่าประเทศพม่าใช้ระบบการจราจรขับขี่รถชิดด้านขวาของถนนหนทางซึ่งไม่เหมือนกับไทยควรต้อง ใช้ความระวังสำหรับเพื่อการเดินเท้าและการข้ามถนนเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ
ข้อไม่สมควรทำ
1 ไม่สมควรกล่าวต่อว่า เทียบประเทศพม่าในทางลบ เนื่องจากว่ามีชาวเมียนมาร์จำนวนไม่น้อยที่สามารถเข้าใจภาษาไทยได้
2 เมียนมาร์ได้เปลี่ยนชื่อประเทศเป็นthe Union of Myanmar ตั้งแต่ปี 2531 จึงไม่สมควรใช้ ชื่อเดิม(Burma) กับชาวประเทศพม่า

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

ห้องอาหารเสนอแนะในพม่า

ประเทศพม่า หรือเมียนมา เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของนักแสวงบุญ เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวอันศักดิ์สิทธิ์หลายที่ให้ได้ไปไหว้ขอพร เสริมความเป็นมงคลแก่ชีวิต
สะกดรอยท่องเที่ยวประเทศพม่า ประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่เว้นเสียแต่สถานที่เที่ยวแล้ว เมืองนี้ยังมีของกินที่สมบูรณ์บริบูรณ์ อีกด้วยโดยยิ่งไปกว่านั้นในเมืองปิ้งกุ้ง วันนี้เราจึงจะพาคุณไปติดตามการเดินทางท่องเที่ยวในเมียนมาของ คุณสมาชิกลำดับที่ 1877965 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ครั้งนี้เธอได้รีวิวของกินแบบจัดหนักจัดเต็มในเมืองปิ้งกุ้งมาให้พวกเราได้ดูกัน ซึ่งมีทั้งของกินแบบรถเข็นริมถนน ไปจนกระทั่งอาหารเลิศหรูในห้างสรรพสินค้า ภรรยานมาจะมีอะไรน่ารับประทานบ้าง ตามเธอไปชมกันเลยค่ะ
ปิ้งกุ้ง : ร้านอาหารการะเวก สร้างขึ้นในปี 2513 โดยเอาอย่างเรือกัญญา หัวเรือเป็นรูปนกการะเวก สัตว์ป่าในหิมพานต์
เป็นร้านอาหารที่สร้างเป็นรูปเรือขนาดใหญ่ ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางทะเลสาบในเมืองปิ้งกุ้งด้านในมีการแสดงท้องนาฎศิลปประเทศพม่า จากจุดนี้สามารถมองเห็นมหาเจดีย์ชเวดากองสะท้อนผิวน้ำด้วย ส่วนอาหารจัดเป็นแบบบุฟเฟต์นานาชาติ แล้วก็อาหารพื้นเมืองของเมียนมาร์
ปิ้งกุ้ง : Royal garden restaurant ร้านอาหารอาหารจีน บรรยากาศในสวน เน้นในเรื่องของอาหารจีนและซีฟู้ด
อยู่ใกล้กับ Chatrium Hotel บรรยากาศสไตล์ โต๊ะจีน ข้างในตกแต่งสวยงาม 
ปิ้งกุ้ง : Western Park restaurant ร้านอาหารแห่งนี้สะดุดตาในเรื่องเป็ดปักกิ่งแล้วก็กุ้งมังกร แนวอาหารจะเป็นแบบอาหารจีน เป็ดปิ้งของที่นี่เมื่อสั่งแล้วจะมาเสิร์ฟกับสาธิตให้มอง ปัจจุบันนี้เปิดทั้งผอง 2 สาขาแล้ว 
ย่างกุ้ง : Golden Duck restaurant ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงของย่างกุ้ง ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ อาหารอร่อยร้านค้าที่นี้สามารถเห็นทิวทัศน์ชเวดากองอย่างแจ่มแจ้งเพราะเหตุว่าอยู่ไม่ไกลจากชเวดากองห้องอาหารแห่งนี้จะเต็มไปด้วยผู้คนมาทาน ส่วนใหญ่เป็นพวกคนมั่งมีชาวประเทศพม่า
ปิ้งกุ้ง : Oriental House restaurant ภัตาค้างรติ่มซำภัตตาคารอาหารติ่มซำเปิดขายในตอนเช้า เลยเที่ยงไปของก็จะหมดแล้วของกินเป็นพวกติ่มซำ บุคลากรจะชูอาหารออกมาวางไว้ข้างหน้าเรา สามารถเลือกทานได้ แม้เข่งไหนไม่ทานจะไม่คิดเงิน แล้วก็ขึ้นชื่อของตรงนี้เสนอแนะให้ทานคู่กับเฉลียงมร้อนของร้านทานคู่ติ่มซำหอมอร่อยมาก ร้านค้าจะตั้งอยู่แถว พิพิธภัณฑ์พม่า
หงสาวดี : ร้านอาหารเจ้าสัว ห้องอาหารที่นี้ ตั้งอยู่ที่เมืองหงสาวดี ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องของกุ้งแม่น้ำ ภายในร้านค้าตกแต่งแบบโล่งเตียนโปร่งสบาย
พม่า : Nandar restaurant ร้านค้านี้ตั้งอยู่ที่เมืองประเทศพม่า มีการแสดงโชว์หุ่นกระบอกให้ได้ดูอาหารอร่อย ถูกปากชาวไทย

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

ข้อมูลที่ควรรู้ในเมียนมาร์

การตรวจลงยี่ห้อ (VISA) 
ชาวไทยที่ถือหนังสือเดินทางธรรมดาจะต้องขอรับการตรวจลงตราจากสถานทูตพม่าก่อนเดินทางไปประเทศพม่า ซึ่งโดยปกติจะมีอยู่ 3 ชนิด เป็น
– Tourist Visa พักพิงอยู่ในเมียนมาร์ได้ 4 อาทิตย์
– Business Visa พำนักอยู่ในประเทศพม่าได้10 สัปดาห์
– Entry Visa พักอยู่ในประเทศพม่าได้ 4 สัปดาห์
คนที่ต้องการอยู่ในประเทศพม่าเกินกว่า 4 สัปดาห์ จะต้องยื่นเรื่องขอ Stay Permit จากกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองของประเทศพม่า ทั้งนี้ผู้ที่อยู่ในประเทศพม่าเกินกว่า 4 อาทิตย์ ต้องยื่น Departure Form ต่อทางการพม่าก่อนที่จะเดินทางออกนอกพม่า
ความเป็นอยู่ การดำรงชีวิตในประเทศพม่า มีความสะดวกเฉพาะอยู่ในกรุงปิ้งกุ้งแล้วก็เมืองใหญ่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเท่า นั้น ในกรุงปิ้งกุ้งมีโฮเต็ลชั้นดีตามมาตรฐานหลายแห่ง สำหรับผู้ที่จะไปอยู่เพื่อทำงานหรือประกอบธุรกิจมีที่พักให้เลือกบ้านเช่า หรือ Serviced apartment การอยู่อพาร์ทเมนท์มีข้อดีในแง่ที่ผู้เช่าไม่ต้องวิตกกังวลปัญหากระแสไฟฟ้าแล้วก็น้ำ ประปา แม้กระนั้นค่าใช้จ่ายสำหรับเช่าค่อนข้างสูงส่วนผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในกรุงย่างกุ้งหาซื้อได้ทั่วไปโดยมีผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากไทยหลายแบบแล้วก็ในกรุงปิ้งกุ้งมีห้องอาหารไทยหลาย ร้านค้า คนที่จะเข้าไปเขตวัดหรือพุทธเจดีย์ จะต้องถอดรองเท้าแล้วก็ถุงเท้า บางแห่งเรียกเก็บเงินค่าเข้าชมสถานที่ด้วย รัฐบาลได้ระบุห้ามคนต่างประเทศเดินทางไปยัง บางเมืองหรือบางพื้นที่หากนักท่องเที่ยวอยากได้ไปเมืองที่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวของพม่า ควรสำรวจข้อมูลกับบริษัทนำเที่ยวก่อนในกรุงปิ้งกุ้งมีรถประจำทางรวมทั้งรถยนต์ แท็กซี่ แม้กระนั้นคนขับแท็กซี่จำนวนมากพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ราคาขึ้นกับการเจรจาต่อรองด้วยเหตุว่ารถแท็กซี่ไม่มีมิเตอร์ ในกรุงย่างกุ้งมีสถานพยาบาลที่ทันสมัยไม่ กี่แห่ง และเหมาะสมเพียงแค่การรักษาพยาบาลเบื้องต้นเพียงแค่นั้น ผู้เดินทางไปประเทศพม่าควรตระเตรียมยา ดังเช่น ยาแก้ไข้หวัด ยาแก้ท้องเดิน และก็ยาประจำตัวไปด้วย และก็ควรที่จะเลือกกินอาหารที่สะอาด
คำแนะนำ กรณีหนังสือเดินทางหาย ขอให้รีบแจ้งเหตุต่อโรงพักแคว้น แล้วนำหลักฐานการแจ้งความไปยื่นต่อสถานทูต เพื่อขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ถ้าหากหนังสือเดินทางหมดอายุก็สามารถขอต่ออายุหรือขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ที่สถานทูตได้เหมือนกัน คนที่อยู่ในพม่าควรสำรวจอายุหนังสือเดินทางอยู่เป็นประจำ
ข้อควรกระทำ
1 ในที่สาธารณะควรแต่งตัวสุภาพเรียบร้อย รัดกุม เป็นระเบียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าไปในวัดรวมทั้งศาสนสถานต้องถอดถุงเท้า รองเท้า ถุงน่อง คุณผู้หญิงไม่ควรแต่งกายด้วยกระโปรงสั้น กางเกงขาสั้น
2 ต้องมีความสุภาพในวัดแล้วก็ศาสนสถาน ไม่ส่งเสียงดังก่อกวนคนอื่น (ทั้งนี้ วัดบางที่บางทีอาจเรียกเก็บค่าเข้าชมด้วย)
3 ควรให้ความเคารพนับถือต่อคนวัยชรา แล้วก็ใช้คำกริยาวาจานอบน้อมเรียบร้อย
4 ต่อรองราคาสินค้ารวมทั้งค่าใช้จ่ายสำหรับโดยสารรถแท๊กซี่ได้
5 คนที่มีปัญหาสุขภาพควรจะตระเตรียมยาประจำตัวมาด้วย
6 ควรระมัดระวังเลือกกินอาหารแล้วก็น้ำจากร้านค้าที่สะอาดถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะน้ำดื่ม ควรจะดื่มน้ำที่ใส่ในขวด
7 ควรจะแลกเงินดอลลาร์สหรัฐติดตัวมาให้เพียงพอด้วยเหตุว่าโรงแรมร้านค้าในประเทศพม่า ส่วนมากจะไม่รับบัตรเครดิตหรือ Traveller’s Cheque ภาวะของธนบัตรควรอยู่ในสภาพใหม่ ดี ไม่ยับไม่มีรอยขีดข่วนและควรเป็นธนบัตรแบบใหม่ ดังนี้แบงค์ 100 ดอลลาร์สหรัฐ จุดหมายเลขเริ่มด้วย CB โฮเต็ลรวมทั้งร้านรวงในพม่าอาจปฏิเสธที่จะไม่รับ
8 เหตุเพราะประเทศพม่าใช้ระบบการจราจรขับขี่รถชิดด้านขวาของถนนซึ่งแตกต่างจากไทยจำเป็นที่จะต้อง ใช้ความระแวดระวังในการเดินเท้ารวมทั้งการข้ามถนนเพื่อเลี่ยงอุบัติเหตุ
ข้อไม่สมควรที่จะทำ
1 ไม่สมควรกล่าวตำหนิติเตียน เทียบพม่าในทางลบ เนื่องจากว่ามีชาวเมียนมาร์เยอะมากๆที่สามารถรู้เรื่องภาษาไทยได้
2 ประเทศพม่าได้เปลี่ยนแปลงชื่อประเทศเป็นthe Union of Myanmar ตั้งแต่ปี 2531 ก็เลยไม่ควรใช้ ชื่อเดิม(Burma) กับชาวประเทศพม่า

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า